Hard water คืออะไร ทำความเข้าใจพื้นฐานและวิธีแก้ไข

hard water คือ

น้ำ (Water) เป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของเรา แต่คุณรู้หรือไม่ว่าน้ำทั้งหมดไม่ได้สะอาดหรือมีคุณสมบัติเหมือนกัน น้ำที่ไหลผ่านก๊อกน้ำของคุณอาจจำแนกได้ว่าเป็น “น้ำกระด้าง” หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับแร่ธาตุบางชนิดที่มีเจือปนอยู่ในน้ำนั้น

ในบางทีคุณอาจสงสัยว่าน้ำที่กระด้างอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพได้หรือไม่ ซึ่งอาจไม่ปลอดภัยสำหรับผู้ที่มีปัญหาสุขภาพบางประการ ซึ่งเราจะมาพูดถึงเรื่องนี้ในอีกไม่ช้า แล้ว Hard water คืออะไรกันแน่ และทำไมคุณจึงควรใส่ใจ มาเจาะลึกกัน ในบทความนี้

Hard water คืออะไร

น้ำกระด้างหรือ Hard water คือน้ำที่มีแร่ธาตุละลายอยู่ในปริมาณสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแคลเซียมและแมกนีเซียม แร่ธาตุเหล่านี้จะถูกดูดซึมเข้าไปในน้ำเมื่อน้ำนั้นเคลื่อนที่ผ่านชั้นหิน โดยเฉพาะหินปูนหรือยิปซัม

แม้ว่าน้ำที่กระด้างจะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์ แต่ก็สามารถก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ แก่บ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า และแม้แต่ผิวหนังและเส้นผมของคุณได้

น้ำกระด้างเป็นปรากฏการณ์ทั่วไป แม้ว่าจะไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ แต่ก็ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของครัวเรือนในหลายๆ เช่นจาน ชามเป็นลายจุดสีขาวขุ่นหลังจากล้างทำความสะอาด ผ้าที่ซักสะอาดอาจสัมผัสได้เหมือนกระดาษทราย และอุปกรณ์ประปาเช่นก๊อกน้ำ อาจมีคราบขาวขุ่น หรือตะกรันได้

สาเหตุของน้ำกระด้าง

Hard water เกิดขึ้นเมื่อน้ำซึมผ่านดินและหินที่มีแร่ธาตุสูง เมื่อน้ำไหลผ่านชั้นเหล่านี้ แคลเซียม แมกนีเซียม และบางครั้งเหล็กจะละลายไป ทำให้ดูดซับแร่ธาตุไปด้วย

ภูมิภาคที่มีหินปูนหรือชอล์กจำนวนมากมีแนวโน้มที่จะมีน้ำกระด้างมากกว่า แต่ก็อาจเกิดขึ้นได้ในหลายพื้นที่ ขึ้นอยู่กับธรณีวิทยาในพื้นที่

ระดับความกระด้างของน้ำวัดเป็นเกรนต่อแกลลอน (gpg) หรือส่วนต่อล้าน (ppm) หรือ มิลลิกรัมต่อลิตร (mg/L)โดยทั่วไปน้ำจะจำแนกได้ดังนี้:

  • น้ำอ่อน: 0-60 mg/L
  • กระด้างปานกลาง: 61-120 mg/L
  • กระด้าง: 121-180 mg/L
  • กระด้างมาก: มากกว่า 180 mg/L

หากสนใจในดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ทำความเข้าใจความกระด้างของน้ำคืออะไร: คู่มือฉบับสมบูรณ์

วิธีตรวจวัดระดับกระด้างในเบื้องต้น

ไม่แน่ใจว่าคุณมีน้ำกระด้างหรือไม่ นี่คือสัญญาณทั่วไปบางอย่างที่สามารถช่วยให้คุณระบุได้:

  • คราบสบู่: น้ำที่กระด้างทำปฏิกิริยากับสบู่จนเกิดคราบเหนียวที่เรียกว่าคราบสบู่ คราบเหล่านี้สามารถพบได้บนผิวหนัง ผม และพื้นผิวห้องอาบน้ำของคุณ
  • คราบตะกรัน: แคลเซียมและแมกนีเซียมสามารถสะสมในท่อและเครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณ ทำให้เกิดคราบตะกรันสีขาวแข็งๆ ซึ่งสามารถอุดตันท่อประปาและลดประสิทธิภาพของเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องล้างจาน และเครื่องซักผ้า
  • คราบบนจานและเครื่องแก้ว: น้ำที่กระด้างทิ้งคราบที่ไม่น่าดูหรือฟิล์มขุ่นบนเครื่องแก้ว แม้ว่าจะล้างในเครื่องล้างจานแล้วก็ตาม
  • ผิวและผมแห้ง: แร่ธาตุในน้ำที่กระด้างอาจทำให้สบู่และแชมพูมีประสิทธิภาพน้อยลง ทำให้ผิวของคุณรู้สึกแห้งและผมของคุณดูหมองคล้ำและไม่มีชีวิตชีวา

การตรวจวัดระดับความกระด้างทางวิทยาศาสตร์

จากข้อมูลในขั้นต้นเราสามารถสังเกตุได้จากคราบตะกรันที่ทิ้งไว้บนจาน ชาม การเป็นฟองลดลงของสบู่ แต่เราสามารถทดสอบได้ในเชิงวิทยาศาสตร์ด้วยเครื่องมือดังต่อไปนี้

1. ใช้แถบทดสอบ (Test Strips)

แถบทดสอบความกระด้าง สามารถใช้ในการทดสอบระดับกระด้างในน้ำที่เกิดจากปริมาณเกลือของโลหะอัลคาไลน์เอิร์ธเช่น แคลเซียม แมกนีเซียม สตรอนเซียม และแบเรียม (“ส่วนประกอบที่ทำให้กระด้าง” ซึ่งภายหลังจะรวมเป็นสารประกอบไอออน Ca2+ และ Mg2+ )

ระดับการกระด้างจะถูกวัดโดยสารเคมีบนแถบวัดและเปลี่ยนสี ทำให้สามารถเปรียบเทียบเชิงปริมาณโดยการดูแถวสีของมาตราส่วนสีบนกล่อง

2. ใช้ชุดทดสอบ (Test Kits)

วิธีที่ง่ายและแม่นยำที่สุดวิธีหนึ่งในการวัดการกระด้างของน้ำที่บ้านคือการใช้ชุดทดสอบ ซึ่งหาซื้อได้ง่ายและมีความแม่นยำปานกลาง

ชุดทดสอบทางเคมีชนิดนี้ใช้หลักการไทเทรต (Titration) ที่ตรวจจับความเข้มข้นของความกระด้างทั้งหมดในช่วง 0 ถึง 150 มก./ล.

3.เครื่องมือวัดแบบดิจิตอล

เป็นเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ใช้เพื่อทดสอบระดับการกระด้างของน้ำโดยการวัดการเปลี่ยนแปลงสีของสารเคมีเมื่อทำปฏิกิริยากับแร่ธาตุ เช่น แคลเซียมและแมกนีเซียม

ใช้หลักการโฟโตเมตริกโดยใช้รีเอเจนต์ การวิเคราะห์โฟโตเมตริกใช้หลักการดูดกลืนแสงของเบียร์-แลมเบิร์ต ตามมาตรฐาน EDTA สำหรับการตรวจสอบน้ำและน้ำเสีย Total hardness วิธี EPA 130.1

มาตรฐานน้ำกระด้างในประเทศไทย

สำหรับน้ำดื่มองค์การอาหารและยาหรือ อ.ย กำหนดให้ความกระด้างมีระดับไม่เกิน 100 มิลลิกรัมต่อลิตร ดังรายละเอียดด้านล่าง

พารามิเตอร์กรมอนามัยอยสมอ
ความกระด้าง (Hardness)ไม่เกิน 500 มก./ล.ไม่เกิน 100 มก./ล.ไม่เกิน 100 มก./ล.

บทความที่เกี่ยวข้อง